ติดต่อสอบถาม:
คุณวิเชียร 089-232-0091

คุณเมธีณัฐ 061-449-6354

ยกปรับระดับอาคาร

ภาพการทำคอลิ่งเพื่อยกปรับระดับอาคาร

ยกปรับระดับอาคาร Lifting

ในการปรับยกระดับอาคารนี้ สามารถปรับยกได้ 2 แบบ
    แบบที่ 1. การปรับยกแบบเสริมฐานราก การปรับยกอาคารแบบเสริมฐานรากนี้เกิดจากฐานรากเดิมทรุดตัวและบ้านเอียงหรือเสาเข็มหัก ต้องทำการเสริมเสาเข็มเสียก่อนถึงจะทำการปรับยกอาคารได้ วิธีการนี้เป็นวิธีการที่สามารถยกได้ง่ายเพราะได้เสริมเข็มความแข็งแรงกับตัวฐานรากแล้ว จึงมีความปลอดภัยในการยกบ้าน
    แบบที่ 2. การปรับยกอาคารแบบไม่ต้องเสริมเสาเข็ม ในกรณีนี้ คือ การปรับยกโดยที่บ้านไม่ทรุดเอียงหรือตัวบ้านไม่ได้มีคามเสียหาย แต่ลูกค้าต้องการยกตัวบ้านให้สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ต้องมีการตรวจสอบและดูหน้างานจากช่างที่ชำนาญงานก่อนการทำงาน

หมายเหตุ วิธีการปรับยกตัวอาคารแต่ละขั้นตอนต้องมีช่างที่ชำนาญการและมีประสบการณ์ในเฉพาะทางเท่านั้น จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขณะปฏิบัติงานได้งานเสริมฐานรากอาคารในการแก้ไขการทรุดตัวของอาคาร ด้วยวิธีการเสริมฐานราก (Underpinning)
กำหนดให้มีขั้นตอนดำเนินงานดังต่อไปนี้
1. จัดเตรียมสถานที่, ขนย้ายวัสดุ - เครื่องมือ
    จัดเตรียมสถานที่หน้างาน โดยการกั้นเขตพื้นที่ในการทำงานให้ชัดเจน เพื่อ สะดวกในการปฏิบัติงาน, การรักษาความปลอดภัย, การรักษาความสะอาด
    จัดเตรียม ขนย้ายวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เข้าหน่วยงาน ให้พร้อมก่อนเริ่มดำเนินงาน
    ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าและน้ำประปา แยกจากส่วนของอาคาร

2.งานขุดดินและขนย้ายดินออกใน การเสริมฐานราก (Underpinning) และยกปรับระดับอาคารให้ดำเนินงานอยู่ภายใต้ อาคาร โดยที่ผู้อยู่อาศัยเดิมสามารถใช้งานอาคารได้ตามปกติและไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อวัสดุตกแต่งในอาคารที่ได้ติดตั้งไปแล้ว โดยในระหว่างดำเนินงานเมื่อมีการขุดดิขึ้นมามากจะต้องขนย้ายดินออกไปบาง ส่วนเพื่อให้มีพื้นที่ว่างในการทำงาน และป้องกัน ปัญหาดินพังทลาย

การปรับยกอาคารแบบไม่ต้องเสริมเสาเข็ม
3.การเสริมเสาเข็ม Micro Pile
    เตรียมเสาเข็ม Micro Pile โดยการตัดท่อเหล็กกลมกลวงเป็นท่อน ๆให้ได้ความยาว ท่อนละประมาณ 1 เมตร ทาสีกันสนิมชนิดRED OXIDE 2 ชั้น และทำการปิดปลายท่อของเสาเข็มท่อนแรกที่ใช้ในการกดแต่ละต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ดินเข้าไปอุดอยู่ในเสาเข็ม
    ทำการติดตั้งชุดแม่แรงไฮดรอลิก สำหรับใช้ในการกดเสาเข็ม Micro Pile
    ดำเนินการเสริมเสาเข็ม Micro Pile โดยใช้แม่แรงไฮดรอลิกกดเสาเข็มเหล็กทีละท่อนๆ ความยาวท่อนละประมาณ 1 เมตร จนได้ระดับความลึกที่ต้องการ (พิจารณาจากผลการทดสอบ Parallel Seismic Test) โดยทำการต่อเสาเข็มแต่ละท่อนด้วยวิธีการเชื่อมไฟฟ้า
    กดเสาเข็ม Micro Pile จนได้ระดับความลึกที่ต้องการ ซึ่งจะสามารถทราบกำลังการรับน้ำหนักของเสาเข็มเบื้องต้นได้ทันทีจากค่าที่อ่านได้จาก Pressure Gauge โดยนำไปสอบทานกับแผนภูมมาตรฐานที่ได้ทำการปรับค่า จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอ เซียหรือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากกรณีที่กดเสาเข็มจนได้ระดับความลึกตามผลทดสอบเสาเข็มเดิม Parallel Seismic Test แล้วค่ากำลังการรับน้ำหนักของเสาเข็มยังไม่ถึง 20 ตัน ต้องแจ้งกลับมายังผู้ออกแบบเพื่อทำการแก้ไขต่อไป
    ทำการกรอกคอนกรีตเหลวลงไปในปลอกเหล็ก เพื่อป้องกันปัญหาการกัดกร่อนของสนิมเหล็กในภายหลัง

4. งานประกอบฐานราก
    ค้ำยันเสาเข็ม Micro Pile กับโครงสร้างอาคาร
    ตัดเสาเข็มเดิมทิ้งเพื่อถ่ายน้ำหนักของอาคารไปสู่เสาเข็มใหม่
    ดำเนินการประกอบฐานรากใหม่เข้ากับเสาเข็ม Micro Pile ตามแบบซ่อมแซม
5. การยกปรับระดับอาคาร
    ภายหลังจากทำการเสริมเสาเข็มและประกอบฐานรากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการถ่าย น้ำหนักจากฐานรากเดิมสู่ฐานรากใหม่ทุกฐาน และเพื่อตรวจสอบว่าเสาเข็มและฐานรากใหม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามแบบ     ดำเนินการยกปรับระดับอาคารด้วยแม่แรงไฮดรอลิกพร้อมทำการตรวจสอบค่าระดับให้เหมาะสมกับการปรับระดับของฐานรากแต่ละฐาน
6. ถมดินกลับคืน, เก็บงานและทำความสะอาด
    ขนดินกลับเข้ามาถมใต้อาคาร
    ซ่อมแซมรอยร้าวของอาคารให้กลับคืนสู่สภาพการใช้งานได้ตามปกติ     เก็บงานและทำความสะอาดพื้นที่ให้เรียบร้อย